จากกรณีที่มีบุคคลเป็นชายชาวตำบลลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีบัตรประจำตัวประชาชนคนเดียวมากถึง 7 ใบ แต่ละใบมีมีชื่อที่แตกต่างกัน ซึ่งบัตรประชาชนดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ทางโลกโซเชียล เนื่องจากเกรงว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ โดยกรมการปกครองจะมีหนังสือแจ้งจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการจัดทำหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

และเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 มี.ค. นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้ออกมาเปิดเผยไปแล้วว่า บัตรประชาชนทั้ง 7 ใบนั้น เป็นบัตรปลอมที่มิจฉาชีพทำขึ้นมาเอง ซึ่งผู้เสียหายโดยตรงคือ นายภาคิน (สงวนนามสกุล) จะต้องเป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน

ซึ่งล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. นายภาคิน อายุ 33 ปี ผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพนำบัตรประจำตัวประชาชนไปแอบอ้างเพื่อหลอกลวงประชาชนตามที่เป็นข่าว ได้เดินทางไปที่ สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ โดยมี พ.ต.ท.มณิภัทร์ เพ็งเกร็ด สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเป็นร้อยเวรเจ้าของคดี ร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย

โดยนายภาคิน ผู้เสียหาย ได้เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ประสานให้ตนมาพบที่ สภ.ลาดหญ้า เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชนของตนที่ถูกแอบอ้าง ส่วนเรื่องการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนของตนนั้น ทราบมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เพราะมีตำรวจจากหลายท้องที่โทรศัพท์มาสอบถามว่าใช่คนตามชื่อบัตรประจำตัวประชาชนที่ถูกปลอมแปลงหรือไม่ ซึ่งก็ได้กล่าวปฏิเสธไป

นายภาคินกล่าวต่อว่า จากนั้นวันที่ 7 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา จึงได้มาลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.ลาดหญ้า แต่ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีการกระทำผิดอีก และที่ผ่านมาได้รับหมายเรียกจาก สภ.ต่างๆ ทั่วประเทศมาแล้ว 9-12 หมาย บางหมายมาจากจังหวัดยะลา จังหวัดกระบี่ รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งเป็นเพียงหมายเรียก แต่ผู้เสียหายหลายคนติดต่อมาหาโดยตรง และมาหาที่ร้านกาแฟ และบางรายที่มารอแจ้งกับตนว่ามารอรับซื้อรถจักรยานยนต์ โดยพร้อมที่จะจ่ายเงินสดให้ จากนั้นก็โทรกลับไปหาคนขายซึ่งเขาก็รับสาย สุดท้ายก็โดนชิ่ง ซึ่งโชคดีที่พบกับตนก่อน จึงบอกไปว่าอย่าเพิ่งโอน และได้นำเอกสารการหลอกลวงให้เขาดู เขาจึงรู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าแล้ว

• โรงพยาบาลเวสต์เลน: เชื่อมั่นผสมชื่อวัยรุ่นที่เสียชีวิต

• แควนตัสขอให้ผู้บริหารทำงานเป็นพนักงานยกกระเป๋าเป็นเวลาสามเดือน

สำหรับเรื่องบัตรประจำตัวประชาชนที่พวกมิจฉาชีพได้ไปนั้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการที่เคยส่งเอกสารเข้าไปในแอพเงินกู้นอกระบบ ซึ่งได้สมัครไปแล้วแต่ไม่ได้เงินกู้มา และต้องมาเสียข้อมูลในบัตรประจำตัวประชาชนให้กับพวกมิจฉาชีพ

โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา พบเพจหลุดจำนำรถสวยสภาพดี นำภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของตัวเองไปตัดต่อด้วยการเปลี่ยนชื่อและเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ซึ่งไม่ใช่ของตน แต่ที่อยู่และรูปถ่ายในบัตรตรงกัน จากนั้นมิจฉาชีพได้นำภาพตัดต่อที่ทำเอาไว้แล้วนำไปหลอกประชาชนทำให้ตนได้รับความเสียหาย และวันที่ 8 มี.ค. จึงมาลงบันทึกประจำวันพร้อมมอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนไปยังประชาชนว่า ช่วงนี้พวกมิจฉาชีพหลอกลวงแบบนี้เกิดขึ้นมากในโลกโซเชียล จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังในเรื่องของบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งเอกสารอื่นๆ ที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลก็เช่นกัน หรือว่าตามเพจซื้อขายสินค้า ก็ขอให้ตรวจสอบที่มาที่ไปให้ชัดเจนก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนอย่างตนได้

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ที่ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนทั้ง 7 ใบ เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย ยังไม่พบข้อมูลใดๆ ขณะนี้กำลังติดตามว่าบุคคลกลุ่มนี้เป็นใคร อยู่ที่ใด ซึ่งต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง พร้อมยืนยันว่าบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกมาเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่เอกสารทางราชการ และการที่จะดูว่าบัตรฯถูกต้องหรือไม่นั้น ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญในเรื่องนี้ตรวจสอบ จึงขอฝากเตือนประชาชนว่าขอให้รักษาบัตรประจำตัวประชาชนไว้ให้ดี และอย่าให้ใครเอาไปใช้เด็ดขาด เพราะอาจจะถูกนำไปแอบอ้างใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้

ติดตามข่าววสารเพิ่มเติมได้ที่ neogamusic.com